- ลูกค้าและพนักงานของชไนเดอร์ อิเล็คทริค สามารถใช้ความสามารถของเจเนอเรทีฟเอไอ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานและสร้างวิธีการทำงานรูปแบบใหม่
- ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มุ่งเน้นการสร้างโซลูชันที่ทันสมัยเพื่อความยั่งยืน
เรย มัลเมซง, ฝรั่งเศส, 14 พฤศจิกายน 2566 /PRNewswire/ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในแง่การจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ หันมาใช้ความสามารถของเจเนอเรทีฟเอไอ (GenAI) เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ลูกค้าและพลิกโฉมการดำเนินงานภายในของบริษัท
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค อาศัยความร่วมมืออันยาวนานร่วมกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) โดยนำไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ (Microsoft Azure OpenAI) มาใช้เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมในการสร้างข้อความ โค้ด และเนื้อหาประเภทอื่น ๆ สิ่งนี้ช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กำหนดแนวทางใหม่ให้แก่กระบวนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ย่นระยะเวลางานที่ใช้เวลานาน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากร เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังใช้เจเนอเรทีฟเอไอเพื่อพัฒนานวัตกรรมของตนอีกด้วย
จุดเด่นสำคัญของการใช้เจเนอเรทีฟเอไอโดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกอบด้วย
- รีซอร์ซ แอดไวเซอร์ โคไพล็อต (Resource Advisor Copilot) – ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ใช้เทคโนโลยีโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ผ่านไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ ในการสร้าง “ผู้ช่วยนักบิน” ดิจิทัลที่ใช้งานง่ายที่ฝังตัวอยู่ในที่ปรึกษาด้านทรัพยากร (Resource Advisor) ช่วยให้ลูกค้าได้รับการวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างภาพ การสนับสนุนการตัดสินใจ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และความสามารถในการประมวลผลความรู้ในอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนและข้อมูลระบบที่ปรึกษาทรัพยากรได้อย่างราบรื่น
- โจ-แชตจีพีที (Jo-Chat GPT) – ผู้ช่วยสนทนาภายในที่ใช้บริการไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ ช่วยให้พนักงานได้รับประโยชน์จากความสามารถของเจเนอเรทีฟเอไออย่างปลอดภัย
- ที่ปรึกษาทางการเงิน (Finance Advisor) – ช่วยให้ประหยัดเงินได้ถึง 10 ล้านยูโรต่อปี ผู้ช่วยสนทนานี้มอบวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลที่แม่นยำสำหรับนักวิเคราะห์ทางการเงินในด้านบัญชีและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงินระดับโลก สร้างการตัดสินใจที่สม่ำเสมอ เป็นไปตามข้อกำหนด และทันเวลา
- บอตความรู้ (Knowledge Bot) – ผู้ช่วยสนทนาที่ช่วยให้ตัวแทนฝ่ายดูแลลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลที่แม่นยำในการตอบคำถามลูกค้า รวมถึงเสนอคำตอบที่เหมาะที่อิงตามเอกสารภายในจำนวนมาก
- การค้นหาเชิงสนทนา (Conversational search) – ช่วยให้ลูกค้าของเราค้นหาผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการในรูปแบบการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ โดยใช้ความสามารถในการค้นหาความหมาย
นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังต้องการผสานรวมกับกิตฮับ โคไพล็อต (Github Copilot) เพื่อปรับปรุงกระบวนการสร้างข้อเสนอและการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเซลส์ โคไพล็อต (Sales Copilot) เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานแนวหน้า
คุณฟิลิปป์ แรมบัค (Philippe Rambach) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเอไอของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและธุรกิจเหล่านี้ว่า “เจเนอเรทีฟเอไอคือตัวเปลี่ยนเกม เรากำลังลงทุนในเทคโนโลยีนี้ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานภายในได้ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เน้นความยั่งยืน”
องค์กรศูนย์กลางเอไอของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวในปี 2564 ก่อนที่เทคโนโลยีเจเนอเรทีฟเอไอจะถูกใช้อย่างแพร่หลาย เครื่องมือใหม่เหล่านี้ไปสู่การสร้างทีมงานที่มุ่งเน้นด้านเจเนอเรทีฟเอไอโดยเฉพาะ เพื่อทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกในการสำรวจหาโอกาสการนำไปใช้งานตั้งแต่เนิ่น ๆ ในขณะเดียวกัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้เสร็จสิ้นการศึกษาโอกาสการใช้งานเจเนอเรทีฟเอไอในทุกฟังก์ชัน และเลือกกรณีการใช้งานและโอกาสการใช้งานที่เป็นไปได้มากกว่า 200 กรณี
การนำเจเนอเรทีฟเอไอมาใช้และการบูรณาการเข้ากับไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ทั้งสองบริษัทต่างมุ่งเน้นที่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพ ส่งเสริมนวัตกรรม และเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณโดมินิก วี (Dominik Wee) รองประธานองค์กร ฝ่ายการผลิตและการเคลื่อนที่ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ ช่วยให้ชไนเดอร์พัฒนาโซลูชันที่คล่องตัว ปรับขนาดได้ คุ้มค่า และขับเคลื่อนด้วยเอไอ สอดคล้องกับความทะเยอทะยานร่วมกันของเราเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและเป็นดิจิทัล”
กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่สร้างขึ้นบนไมโครซอฟท์ อาซัวร์ นำเสนอโซลูชัน IoT (Internet of Things) บนคลาวด์ยุคอนาคต รวมถึงความสามารถด้านข้อมูลและเอไอขั้นสูงแก่ลูกค้า
ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ทะเยอทะยานและการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวของลูกค้า
เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On
ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน
เราขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยการบูรณาการกระบวนการและเทคโนโลยีพลังงานชั้นนำของโลก ผลิตภัณฑ์ปลายทางและการเชื่อมต่อคลาวด์ การควบคุม ซอฟต์แวร์ และบริการตลอดวงจรชีวิตทั้งหมด ทำให้สามารถจัดการบริษัทแบบบูรณาการสำหรับบ้าน อาคาร ศูนย์ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรม
เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว พร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Life Is On | ติดตามเราได้ทาง: ทวิตเตอร์ | เฟซบุ๊ก | ลิงด์อิน | ยูทูบ | อินสตาแกรม | บล็อก
ค้นพบมุมมองใหม่ล่าสุดที่จะกำหนดนิยามของความยั่งยืน ระบบไฟฟ้า 4.0 (Electricity 4.0) และระบบอัตโนมัติยุคใหม่ได้ที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค อินไซต์ส (Schneider Electric Insights)
แฮชแท็ก: #genAI, #AI, #machinelearning, #digitization, #innovation
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.